เคลียร์ชัด ๆ ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ ชั้น 1 ที่ต้องจ่ายทุกปี ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง?
การซื้อประกันรถยนต์ ถือเป็นราคาจ่ายที่ให้ความอุ่นใจให้กับผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี และหลายคนก็เลือกที่จะจ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ ชั้น 1 ที่ราคาสูงกว่าประกันภัยชั้นอื่น ๆ เพราะต้องการความอุ่นใจขั้นสูงสุด โดยไม่ศึกษารายละเอียดอื่น ๆ ให้ดี ว่าประกันประเภทนี้ให้ความคุ้มครองเรื่องอะไรบ้าง? หากคุณเป็นมือใหม่ที่อยู่ในช่วงที่กำลังตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ แนะนำให้ดูก่อนว่าประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไร และตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีจริงหรือไม่ เพื่อให้การเลือกซื้อมีประสิทธิภาพมากที่สุด
จ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ ชั้น 1 สูงกว่า ได้รับความอุ่นใจมากกว่าจริงไหม?
เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้แล้วว่า เบี้ยประกันรถยนต์ ชั้น 1 ที่ต้องจ่ายในแต่ละปี ให้ความคุ้มครองในเรื่องใดบ้าง และเราก็ไม่ปล่อยให้คุณต้องรอนาน ได้รวบรวมรายละเอียดมาให้คุณเรียบร้อยแล้ว ไปดูกันเลย!
1. ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถที่ทำประกัน
นอกจากประกันภัย ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถคันที่เอาประกันแล้ว ยังรวมไปถึงอุปกรณ์ตกแต่งรถที่เพิ่มเข้ามาด้วย ไม่ว่าจะเป็นรถของผู้เอาประกันก็ดี หรือรถของคู่กรณีก็ดี แถมยังรวมถึงอุบัติเหตุที่เกิดแบบไม่มีคู่กรณี รถหาย ไฟไหม้ และน้ำท่วมอีกด้วย
2. บุคคลภายนอก
เบี้ยประกันรถยนต์ ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองต่อทรัพย์สิน ร่างกาย และชีวิตของคู่กรณี รวมถึงบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหาย จากการเกิดอุบัติเหตุของรถที่ทำประกัน ด้วยการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามจริง โดยมีจำนวนวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
3. ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ไม่จะผู้เอาประกัน คู่กรณี หรือบุคคลภายนอก ก็จะได้รับความคุ้มครองทั้งหมด ด้วยการคุ้มครองค่าเสียหายส่วนที่เกินจากความคุ้มครองใน พ.ร.บ. ซึ่งเป็นจำนวนเงินขั้นต่ำที่บริษัทประกันภัยต้องรับผิดชอบ
ซึ่งถ้าหากจะถามว่าประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 เหมาะกับใครมากที่สุด แนะนำสำหรับมือใหม่หัดขับ รถป้ายแดง รถมีราคา หรือรถที่ตรงตามความต้องการของตลาด เนื่องจากประกันจะให้ความครอบคลุม จนคุณไม่ต้องคอยแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็น ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ การโจรกรรม หรืออื่น ๆ
เห็นกันแล้วใช่ไหมว่าประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม คุ้มค่ากับค่าเบี้ยประกันรถยนต์ ชั้น 1 ที่จ่ายไปมากน้อยเพียงใด แต่อย่าลืมศึกษาในเรื่องของ “ข้อห้าม” ที่คุณจะไม่ได้รับความคุ้มครองด้วย ไม่ว่าจะเป็น การดื่มแล้วขับ แข่งขันความเร็ว ใช้รถในทางที่ผิดกฎหมาย และใช้รถยนต์ผิดประเภท ซึ่งถ้าหากคุณทำเผลอทำทั้ง 4 ข้อที่เพิ่งกล่าวมา แล้วเกิดอุบัติเหตุล่ะก็ คุณจะไม่ได้รับความคุ้มค่าจากบริษัทประกันภัยรถยนต์แต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทจะถือว่าคุณ “ทำผิดเงื่อนไขกรมธรรม์” นั่นเอง นอกจากนี้หากคุณแต่งรถเพิ่มเติม หากส่งผลให้รถผิดแปลกไปจากเดิม ก็ควรจะแจ้งบริษัทประกันภัย เพื่อประเมินค่าเบี้ยเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน